1.ระบบบริหารทรัพยากรการผลิต (MRP) ใน ERP System
เป็นระบบ ที่ช่วยบริหารจัดการทรัพยากรการผลิต และ บันทึกข้อมูลคงคลังของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึง การวางแผนความต้องการวัตถุดิบต่าง ๆ ภายในองค์กรธุรกิจ ซึ่งการนำระบบ ERP มาช่วยในการจัดการภายในระบบนี้ กลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ ERP เป็นสิ่งจำเป็นต่อองค์กรโดยเฉพาะกับอุตสาหกรรมการผลิต ขนาดใหญ่ เนื่องจากจำเป็นต้แงมีการจัดการภายในองค์กรที่มีความละเอียดสูง และ เป็นระบบมากที่สุด
โดยระบบ ERP มีส่วนช่วยทั้งในเรื่องของการควบคุมแผนการสั่งซื้อ, การส่งมอบสินค้า, การจัดการสินค้าคงคลัง , วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต, การจัดทำแผนการผลิต พร้อมทั้งแสดงปริมาณวัตถุดิบที่ต้องการใช้งาน หรือแสดงจำนวนวัตถุดิบที่คาดว่าจะใช้งาน , การแสดงรายการวัตถุดิบในคลัง เป็นต้น

2.ระบบบริหารจัดการทรัพยากรการเงิน (FRM) ใน ERP System
ในการทำธุรกิจ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดจากการทำธุรกิจ คือ จำนวนเงินที่ไหลเวียนเข้ามาภายในองค์กรธุรกิจ ซึ่ง ระบบ FRM เป็นส่วนเน้นการให้บริการเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงิน และ บัญชี โดยอิงตามกฏระเบียบ และ ข้อบังคับตามที่ประเทศนั้น ๆ
FRM ถือเป็นส่วนประกอบหลักของระบบ ERP ข้อมูลทุกส่วนและข้อมูลทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ด้วยการเรียกดูเพียงครั้งเดียว ผลลัพธ์จากการประมวลผลของ FRM มักจะออกมาในรูปแบบรายงาน ทั้งรายงานสำหรับระดับปฏิบัติการ รายงานสำหรับผู้บริหาร และ รายงานสำหรับหน่วยงานภายนอก เช่น กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร เป็นต้น เมื่อได้ข้อมูลเหล่านั้นออกมาแล้วก็จะไปวิเคราะห์ในส่วนของ “ ความคุ้มค่า ” ในการลงทุนในผลิตภัณฑ์แต่ละตัว ว่าลงทุนในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ มากน้อยเกินไปหรือไม่

3.ระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM)
การทำธุรกิจไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม จะก้าวหน้าไปไม่ได้เลยหากธุรกิจนั้นขาดสิ่งสำคัญที่เรียกว่า “ ลูกค้า ” ดังนั้นแล้วหากเรามีลูกค้าแล้ว การที่จะรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์ในระยะยาวย่อมเป็นสิ่งสำคัญต่อองค์กร CRM จะช่วยให้องค์กรสามารถศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า ความสนใจ ความต้องการ หรือ ปัญหาที่ลูกค้าเจอ แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า นำสินค้าเสนอต่อลูกค้าให้ใกล้เคียงกับที่ลูกค้าสนใจ และปรับปรุงในส่วนของกระบวนการที่ทางองค์กรขาดตกบกพร่องต่อลูกค้า รวมไปถึงการบริการหลังการขายแก่ลูกค้า เพื่อลดการสูญเสียลูกค้า ลดต้นทุนการตลาด

4.ระบบบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน (SCM)
การบริหารห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain Management : SCM เป็นส่วนที่ช่วยในการเชื่อมโยงและประสานงานในส่วนต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการซื้อ การขาย การสร้าง และ การเคลื่อนย้ายสินค้า ตลอดจนรวบรวมข้อมูล และธุรกรรมต่าง ๆ ระหว่างผู้ผลิตกับองค์กรที่เป็นผู้ส่งมอบ ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ไปจนถึง กับลูกค้า หรือ ผู้บริโภค โดยที่องค์กรต่าง ๆ เหล่านี้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจต่อกัน
สิ่งสำคัญในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน คือ การช่วยลดเวลา ลดความพยายามในการทำงานที่ซ้ำซ้อน และลดมูลค่าในการจัดการคลังสินค้า เพื่อให้องค์กรเหล่านั้นมี ความสามารถในการบริหาร ความเติบโตของธุรกิจ และ ความยั่งยืนของธุรกิจ

5.ระบบบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (HRM)
อีกระบบที่มีส่วนสำคัญ และ ขาดไปไม่ได้ต่อระบบ ERP นั่นก็คือ Human Resource Management : HRM หรือ การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งก็เป็นการบริการจัดการบุคคลากรภายในแต่ละองค์กรนั่นเอง เริ่มตั้งแต่การรับคนเข้ามาทำงาน เทรนพนักงาน จัดการเรื่องค่าจ้างเงินเดือน การแจ้งสวัสดิการต่อพนักงาน จัดการเรื่องการโยกย้ายหนาที่ในฝ่ายต่าง ๆ ตามความเหมะสม ตลอดจนการประเมินพนักงานว่าทำงานได้มากน้อยแค่ไหน ตรงตามเป้าหมายหรือไม่ โดยวัดจากฐานข้อมูลที่ทางองค์กรกำหนดไว้เป้นมาตราฐาน เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้ตามหน้าที่ของตนเองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเกิดข้อผิดพลาดในงานที่ได้รับมอบหมายน้อยที่สุด รวมถึงการพัฒนาให้พนักงานมีศักยภาพเพิ่มขึ้น เพื่อการปฎิบัติงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเพื่อความสำเร็จขององค์กรที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

6.ระบบอื่นๆ ที่สามารถปรับแต่งให้เข้ากับธุรกิจทุกรูปแบบ (Customisation)
ในความเป็นจริงของการทำงานธุรกิจในแต่ละที่นั้น ระบบการทำงานย่อมมีความแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมในแต่ละองค์กร แต่ละบริษัทมีความต้องการของระบบในการใช้งานที่แตกต่างกันไปเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในบริษัท ด้วยความต่างนี้เอง จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ ระบบ ERP เข้ามาร่วมพัฒนา และ ปรับระบบของแต่ละองค์กร ให้มีความตอบโจทย์มากที่สุด เพื่อให้เกิดประสิทธภาพสูงสด และ ผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน
เยี่ยมชมบริษัทในเครือ W. P. P. ENGINEERING CO., LTD. , ABLEINNO